สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลแถลง หยุดสร้างเขื่อนดอนสะโฮง หยุดเข่นฆ่าคนหาปลาลุ่มน้ำโขง
วันที่ 9 พ.ย. สมัชชาคนจน
กรณีเขื่อนปากมูล ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่อง : หยุดสร้างเขื่อนดอนสะโฮง
หยุดเข่นฆ่าคนหาปลา ลุ่มน้ำโขง ความว่า ในวันที่
10 พ.ย.
สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) และ สำนักบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง กรมทรัพยากรน้ำ
(สบข.) ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 กรมทรัพยากรน้ำ (สทภ. 11) จะจัดเวทีให้ข้อมูลโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮง
สปป. ลาว ขึ้น ที่ ห้องประชุมพิมานทิพย์ (ชั้น 7) ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ที่ดำเนินการอย่างเร่งรีบ
จึงน่าเคลือบแคลงอย่างยิ่ง
ต่อการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง
และกระบวนการจัดเวทีให้ข้อมูลเขื่อนดอนสะโฮง ในครั้งนี้ พวกเรามีความเห็น ดังนี้ .......
1.เขื่อนดอนสะโฮง ก่อสร้างโดย
สปป.ลาว บริเวณแม่น้ำโขงตอนล่าง ช่วงที่ 4 (ปากเซ สปป.ลาว-กระแจะ กัมพูชา) เกาะสีพันดอน
ทางใต้ของ สปป.ลาว เขตติดต่อพรมแดนกัมพูชาประมาณ 7 กิโลเมตร (จากพรมแดน ลาว-กัมพูชา)
เป็นการสร้างเขื่อนปิดฮูสะโฮง (ฮูสะโฮง เป็นช่องน้ำไหลอยู่ในแนวเดียวกันกับน้ำตกคอนพะเพ็ง
และน้ำตกหลี่ผี) โดยมีแผนจะขุดขยายลำน้ำ (ฮูสะโฮง) เป็นช่องรับน้ำ 5 กิโลเมตร
และก่อสร้างตัวเขื่อนเป็นคันคอนกรีตบดอัดแน่น ความยาว 6.8 กม. ความสูง 25 เมตร
มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีขนาดกำลังผลิต 240-260 เมกะวัตต์ ขณะที่ฮูสะโฮง
มีความลาดเอียงต่ำกว่าหลี่ผีและคอนพะเพ็ง สภาพเช่นนี้จึงเอื้อให้ปลาจำนวนมาก
สามารถเดินทางจากทะเลสาบเขมรเข้ามาสู่แม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาแม่น้ำโขง
ซึ่งรวมถึงแม่น้ำมูนด้วย
แต่วัฏจักรของปลานี้จะหายไปเมื่อเขื่อนดอนสะโฮงสร้างแล้วเสร็จ
2.เขื่อนดอนสะโฮง จะถูกสร้างขึ้นในลำน้ำโขงซึ่งเป็นแม่น้ำนานาชาติ
แม่น้ำโขงนับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจุดกำเนิดจากที่ราบสูงทิเบต
และมีจุดกำเนิดร่วมกับอีก 2 แม่น้ำ คือแม่น้ำแยงซี
และแม่น้ำสาละวิน ไหลผ่านถึง 7 ประเทศ จนกระทั่งไหลไปออกทะเลจีนใต้ที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่เวียดนาม
มีลำน้ำสาขาต่างๆ มากมาย รวมถึงพื้นที่ชุ่มน้ำอีกจำนวนมาก เช่น แม่น้ำมูน, แม่น้ำชี, แม่น้ำสงคราม และทะเลสาบเขมร
แม่น้ำโขงนับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับที่ 10 ของโลก
และเป็นแม่น้ำที่มีความหลากหลายของชนิดปลามากเป็นอันดับ 3 ของโลก
รองจากแม่น้ำอเมซอนในทวีปอเมริกาใต้
และแม่น้ำคองโกในทวีปแฟริกาปลาที่พบในลุ่มแม่น้ำโขง ในปัจจุบันนี้พบแล้วกว่า 1,200 ชนิด และคาดว่าอาจมีถึง 1,700 ชนิด
จะส่งผลกระทบทำให้ปลาจำนวนมากลดจำนวนลงและปลาอีกหลายชนิดจะสูญพันธุ์ป
เช่นเดียวกับการสร้างเขื่อนปากมูลที่ทำให้ปลาในแม่น้ำมูนลดจำนวนลงอย่างมาก
ซึ่งผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นกับประชาชนในหลายประเทศร่วมถึงประชาชนไทยด้วย
3.แม่น้ำโขง
ซึ่งเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2538 กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงทั้งสี่ประเทศซึ่งใช้ประโยชน์ลุ่มน้ำโขงตอนล่างร่วมกัน
ได้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการร่วมมือ "การพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง แบบยั่งยืน"
ได้ร่วมกันก่อตั้ง คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission - MRC) โดยในส่วนของประเทศไทยหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการคือ
"กรมทรัพยากรน้ำ" การสร้างเขื่อนดอนสะโฮง กั้นแม่น้ำโขง
จึงควรอย่างยิ่งที่ MRC จะต้องทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในกลุ่มประเทศสมาชิก
แต่ MRC กลับเพิกเฉย
และที่สำคัญกรมทรัพยากรน้ำในฐานะตัวแทนประเทศไทย
ยังออกหน้าจัดเวทีแทนเจ้าของเขื่อน (เจ้าของเขื่อนคือ สปป.ลาว)
เสมือนหนึ่งว่าการจัดเวทีครั้งนี้เป็นไปเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับเขื่อนดอนสะโฮง
พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ต่างจาก "มือปืนรับจ้าง"
4.ความล้มเหลวจากเขื่อนปากมูล
แต่ไม่นำไปเป็นบทเรียน
เขื่อนปากมูลถูกสร้างขึ้นโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของชาวบ้านคนหาปลา
และนักวิชาการว่าเขื่อนปากมูลจะส่งผลให้ปลาลดลง
ซึ่งนักสร้างเขื่อนพยายามหาเหตุผลและเสนอเทคนิคมากมายเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของชนิดพันธุ์ปลา
และปริมาณปลาในลุ่มน้ำมูน แต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้แล้วเขื่อนปากมูลซึ่งเดิมเป็นเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นเขื่อนเพื่อการชลประทาน ขณะที่ชาวบ้านยังคงเรียกร้องความเป็นธรรมต่อเนื่องยาวนานกว่า
26 ปี
และพวกเขายังคงต้องเรียกร้องต่อไปจนกว่าความเป็นธรรมจะเกิดขึ้น
5.คำสัญญาที่หลอกลวง
ชาวบ้านปากมูนได้เคยมีข้อตกลงจำนวนมากกับการไฟฟ้า ฯ และรัฐบาล
ทั้งก่อนการสร้างเขื่อนปากมูล และเมื่อเขื่อนปากมูลสร้างเสร็จแล้ว แต่ทุกข้อตกลงที่ผ่านมา
เจ้าของเขื่อนและรัฐบาลไม่เคยทำตามสัญญาเลยสักครั้ง
และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมาถึง 26 ปี และเช่นเดียวกันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.)
หน่วยงานที่นำเสนอข้อมูลเขื่อนดอนสะโฮง
ก็จะพยายามนำเสนอข้อมูลเฉพาะด้านดีของเขื่อนเพียงด้านเดียว พร้อมกับรับปาก สัญญา
ต่าง ๆ นานา เพื่อให้เวทีผ่านไปจนเสร็จ แต่หลังจากนั้น
คนเหล่านี้ก็จะหายไปไม่มาให้เห็นหน้าอีกเลย
ต่อพฤติกรรมของ MRCS และกรมทรัพยากรน้ำ
ที่เร่งรีบดำเนินการจัดเวทีให้ข้อมูลเขื่อนดอนสะโฮง ในครั้งนี้
พวกเรามิอาจคาดหวังได้ว่าจะมีการให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน
เพียงพอที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถตัดสินใจได้
และที่สำคัญพวกเราไม่เห็นหลักประกันอันใดเลยว่า
ข้อเสนอของพวกเราจะถูกนำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจ
ต่อการดำเนินการของเขื่อนดอนสะโฮง เพราะ สปป.ลาว ได้ตัดสินใจแล้ว
และกำลังเดินหน้าก่อสร้างเขื่อน
ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ
และปกป้องการทำลายแม้น้ำโขง สมัชชาคนจน กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล
จึงเรียกร้องให้ MRCS และกรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการ
ดังนี้
1.ให้ MRCSและกรมทรัพยากรน้ำ
ยกเลิกการจัดเวที ในวันพรุ่งนี้ ทันที พร้อมกับกลับไปทบทวนบทบาทหน่วยงานของตนเอง
ว่าจะดำเนินการเพื่อรับใช้นักสร้างเขื่อน
หรือเพื่อจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไทย
2.ให้กรมทรัพยากรน้ำ
ในฐานะของรัฐไทย ใช้สิทธิ์ยับยั้งการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง ของ สปป.ลาว
พร้อมกับเสนอให้ สปป.ลาว เป็นผู้ดำเนินการจัดเวทีให้ข้อมูลกับประชาชนในประเทศสมาชิก
MRC ทั้งสี่ประเทศ ไม่ใช่ MRSC และกรมทรัพยากรน้ำ
มาทำแทนเช่นนี้
3.ให้กรมทรัพยากรน้ำ
หันมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น ปัญหาที่เกิดจากเขื่อนปากมูล
ให้เสร็จสิ้นก่อน พร้อมทั้งหาแสวงหาแนวทางในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนโดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชน
เป็นที่ตั้ง
อย่างไรก็ตาม พวกเรายังหวังว่า
กรมทรัพยากรน้ำ ที่เป็นตัวแทนของรัฐไทย จะตระหนักและสำเหนียกว่า
เบี้ยหวัดที่พวกท่านได้รับอยู่นั้น มาจากภาษีของประชาชนชาวไทย
และในฐานะหุ้นส่วนของสังคมไทย พวกเราจึงมิอาจนิ่งเฉยอยู่ได้ และที่สำคัญพวกเราได้มีประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาแล้วกว่า
26 ปี
ซึ่งพวกเราไม่อยากให้ความเลวร้าย ที่ได้เกิดขึ้นกับพวกเรา เกิดขึ้นซ้ำ ซ้ำ
อีกต่อไป การยับยั้งการจัดเวทีในวันพรุ่งนี้ จึงเป็นภารกิจเพื่อปกป้องแม่น้ำ
ปกป้องวิถีชีวิต วิถีชุมชนของพวกเรา และของทุกคน
เชื่อมั่นในพลังประชาชน
สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล
10 พฤศจิกายน 2557
No comments:
Post a Comment