About Us

My photo
1518 Soi Jaransaniwong 75 Junction 32, Bangphlad, Bangphlad,, Bangkok 10700, Thailand
The Community Resources Centre Foundation (CRC) is a non-governmental organisation which is committed to protect and promote the Human Rights, Community Right and the Environment. CRC is a watchdog on the implementation of ICCPR and ICESCR. มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (ศขช.) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานในการปกป้องและส่งเสริม สิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน และสิ่งแวดล้อม ศขช.เฝ้าระวังสถานการณ์ ตามกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และกติกาสากลว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

Friday, November 7, 2014

ฟ้อง อธิบดีป่าไม้ ผวจ.ลำปาง ออกใบอนุญาตใช้ป่าผิดกม. เอื้อบ.เหมืองลิกไนต์ ไม่สนชุมชนค้าน


กลุ่มรักษ์บ้านแหง ฟ้องอธิบดีกรมป่าไม้-ผวจ.ลำปาง-รมว.ทรัพยากรฯ เหตุออกใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่า-อ้างรายงานประชาคมเท็จเอื้อกิจการเหมืองแร่ลิกไนต์ ขัดข้อกฎหมาย-ชุมชนยังต้าน.......

วันที่ 7 พ.ย. 57 ที่ศาลปกครองเชียงใหม่  ประชาชนหมู่บ้านแหงเหนือ หมู่ที่1 และหมู่ที่ 7 ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง ในนามกลุ่มรักษ์บ้านแหงราว 70 คน เดินทางมายังศาลปกครองเชียงใหม่  โดยมี นางสมหมาย หาญเตชะ กับพวกรวม 442 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรมป่าไม้ กับพวกรวม 7 ราย ได้แก่ อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอำเภองาว องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านแหง อำเภองาว จังหวัดลำปาง (ในขณะเกิดเหตุ) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๗ ตำบลบ้านแหง อำเภองาว จังหวัดลำปาง (ในขณะเกิดเหตุ)

โดยขอให้ศาลมีคำสั่ง เพิกถอนการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด ในเขตคำขอประทานบัตรที่ 5/2553 ถึง 7/2553 จำนวน 3 ฉบับ เพิกถอนใบอนุญาตแผ้วถางป่า ในเขตคำขอประทานบัตรที่ 5/2553 และ 6/2553 จำนวน 2 ฉบับ รวมทั้ง ขอให้เพิกถอนรายงานการประชุม (ประชาคม) ฉบับวันที่ 24 กันยายน 2553 และรายงานการประชุมอบต.บ้านแหง ฉบับวันที่ 28 กันยายน 2553 ซึ่งนำมาใช้ประกอบการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯของบริษัทฯ ซึ่งกลุ่มผู้ฟ้องคดีเห็นว่า รายงานทั้งสองฉบับ และการออกใบอนุญาตดังกล่าวของหน่วยงานรัฐให้แก่บริษัท เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นางสาวแววรินทร์ บัวเงิน  หนึ่งในผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า กลุ่มรักษ์บ้านแหงได้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการขอประทานบัตรเพื่อประกอบกิจการเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์โดยบริษัท เขียวเหลือง จำกัด มาตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากเล็งเห็นถึงผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผลกระทบต่อวิถีทำกินของชุมชน โดยที่ผ่านมาแม้บริษัทจะยังไม่ได้ประทานบัตรเหมืองแร่ แต่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาต หน่วยงานได้ออกใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ให้แก่บริษัทฯอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากยังไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชนในพื้นที่  โดยมีการนำรายงานการประชุมชี้แจงการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2553 ซึ่งโดยข้อเท็จจริงเป็นการประชุมเพื่อแจ้งให้ทราบข้อมูล ไม่ใช่การประชุมเพื่อขอความเห็นชอบจากชุมชน และเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการเหมือง ไม่ใช่เพื่ออนุญาตใช้พื้นที่ป่า มาใช้เป็นรายงานประชาคมเพื่อประกอบการออกหนังสืออนุญาตใช้พื้นที่ป่าและใบอนุญาตอื่นๆให้บริษัทฯ  จึงต้องฟ้องขอให้มีการเพิกถอนใบอนุญาตและรายงานประชาคมดังกล่าว

ด้าน นางสาวส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า ตามระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2548 ข้อ 8(5) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับพื้นที่ป่าที่จะอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ว่า จะต้องไม่มีปัญหากับประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนรับรู้และสะท้อนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ แต่โดยข้อเท็จจริง พื้นที่ขอประทานบัตรในต.บ้านแหง ยังมีปัญหาความขัดแย้งอยู่ เนื่องจากชาวบ้านยังมีการคัดค้านการทำเหมืองแร่มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตามหลักกฎหมาย หน่วยงานจึงไม่สามารถออกใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าให้แก่บริษัทฯได้  นอกจากนี้ ยังพบว่า รายงานการประชุมชี้แจงการทำเหมืองแร่ที่ถูกนำมาอ้างใช้เป็นรายงานประชุมประชาคมที่ชุมชนให้ความเห็นชอบเพื่อประกอบการออกใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่านั้น ก็เป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง โดยคดีนี้ผู้ฟ้องขอให้ศาลรับพิจารณาคดีเป็นคดีสิ่งแวดล้อม  

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านแหงได้ยื่นฟ้องศาลปกครองขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนรายงานการไต่สวนพื้นที่ตามคำขอประทานบัตรของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด ด้วย ซึ่งคดีดังกล่าวเมื่อเดือนตุลาคม 2556 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับฟ้องแล้ว และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลปกครองเชียงใหม่

No comments:

Post a Comment