เครือข่ายปชช. 8 จว. ลุ่มน้ำโขงแถลงแสดงจุดยืนต่อการประชาคมเขื่อนดอนสะโฮง ท้วงผู้เสียหายไม่ถูกเชิญเข้าร่วม
แนะกรมน้ำรื้อกระบวนการทำใหม่
วันที่ 12พ.ย.57 ที่จ.อุดรธานี เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง
ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อกระบวนการปรึกษาหารือโครงการเขื่อนดอนสะโฮง จัดโดยกรมทรัพยากรน้ำ
ซึ่งประชาชนผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนโดยตรงจากโครงการเขื่อนแม่น้ำโขง ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการปรึกษาหารือแต่อย่างใด
แถลงการณ์มีใจความดังนี้...
ตามที่รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
(สปป.ลาว) ได้ประกาศที่จะดำเนิน โครงการเขื่อนดอนสะโฮง แขวงจำปาสัก ทางตอนใต้ของ
สปป.ลาว ซึ่งจะเป็นเขื่อนแห่งที่ 2 บนแม่น้ำโขงตอนล่าง และได้นำโครงการนี้เข้าสู่กระบวน PNPCA ซึ่งจะต้องมีการดำเนินกระบวนปรึกษาหารือล่วงหน้า
(Prior Consultation) ในแต่ละประเทศ ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง พ.ศ.2538
ซึ่งได้กำหนดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งต่อมา คณะกรรมการร่วม 4
ประเทศ ได้ตกลงเริ่มกระบวนการฯ ในปลายเดือนกันยายนและจะสิ้นสุดระยะเวลา 6 เดือนในเดือนมกราคม 2558
ขณะนี้
ทางกรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะสำนักงานเลขาธิการแม่น้ำโขงของประเทศไทย
กำลังเดินหน้าจัดเวทีปรึกษาหารือล่วงหน้ากรณีเขื่อนดอนสะโฮง ในวันที่ 10 พฤศจิกายน
ที่จ.อุบลราชธานี และวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ จ.นครพนม
และเหลืออีก 4 เวทีซึ่งยังไม่ระบุรายละเอียด
แม้ว่าเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงได้เคยมีจดหมายไปยังกรมทรัพยากรน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มาแล้วมากกว่า 3 ครั้ง
รวมไปถึงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างรองอธิบกรมทรัพยากรน้ำและตัวแทนเครือข่ายฯ
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ณ อ.เชียงของ
จ.เชียงราย ผลปรากฏว่า จนถึงปัจจุบันทางเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงยังไม่เคยได้รับการตอบกลับใดๆ
ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และไม่ได้รับเชิญใดๆ ทั้งที่พวกเรา คือ “ผู้ที่กำลังจะได้รับความเดือดร้อนโดยตรงจากโครงการเขื่อนบนแม่น้ำโขงสายหลักแห่งนี้และอีก 9 แห่ง”
พวกเรามีมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งกับกระบวนการและวิธีการที่กรมทรัพยากรน้ำกำลังดำเนินการสำหรับกรณีเขื่อนดอนสะโฮง
ที่กำลังจะซ้ำรอยและแย่ยิ่งกว่ากรณีเขื่อนไซยะบุรี เมื่อปี 2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนความหมายของคำว่า
“Prior Consultation” เป็นการ “ให้ข้อมูล”
ไม่ใช่เป็นการ “ปรึกษาหารือ” เป็นการกีดกันเสียงของประชาชนผู้ที่จะได้รับผลกระทบ ทำให้ไม่มีความหมาย
และไม่มีสิทธิอันใดในฐานะประชาชนลุ่มน้ำโขงเลย
ข้อเรียกร้องต่างๆ
ที่ทางเครือข่ายฯ ได้เคยเสนอไป เช่น
การจัดเวทีรับฟังประชาชนริมน้ำโขงให้ครบทุกพื้นที่ การแปลเอกสารรายงานต่างๆ
และเผยแพร่ให้ผู้เข้าร่วมได้อ่านก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
รวมไปถึงให้เจ้าของโครงการได้เข้าร่วมชี้แจงร่วมกับตัวแทนสำนักงานเลขาธิการแม่น้ำโขง
และกรมทรัพยากรน้ำ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ
กระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้
ถือว่าทำให้กระบวนการ PNPCA ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง ปี 2538 (Mekong Agreement 1995) มีมาตรฐานตกต่ำลงไปอีก
พวกเราสิ้นหวังต่อกรมทรัพยากรน้ำในฐานะหน่วยงานรัฐตัวแทนรัฐบาลไทย
ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการที่จะปกป้องสิทธิของประชาชนชาวไทยผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง
และโดยเฉพาะการกีดกันประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงให้ไม่สามารถเข้าร่วม
ไม่สามารถแม้แต่จะได้รับเชิญ สิ่งนี้เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
และขัดต่อหลักกฎหมายสากล
ดังนั้น
พวกเราจึงขอให้กรมทรัพยากรน้ำ ยุติกระบวนการทั้งหมดของกระบวนการโครงการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง
และร่วมกันวางแผนกระบวนการให้ถูกต้อง ครอบคลุม
และมีมาตรการที่จะทำให้มั่นใจว่าผู้ที่จะเดือดร้อนจะสามารถเข้าร่วมกระบวนการได้
และนำไปสู่การตัดสินใจที่รับผิดชอบต่อประชาชนในลุ่มน้ำโขงอย่างแท้จริง
No comments:
Post a Comment