About Us

My photo
1518 Soi Jaransaniwong 75 Junction 32, Bangphlad, Bangphlad,, Bangkok 10700, Thailand
The Community Resources Centre Foundation (CRC) is a non-governmental organisation which is committed to protect and promote the Human Rights, Community Right and the Environment. CRC is a watchdog on the implementation of ICCPR and ICESCR. มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (ศขช.) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานในการปกป้องและส่งเสริม สิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน และสิ่งแวดล้อม ศขช.เฝ้าระวังสถานการณ์ ตามกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และกติกาสากลว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

Monday, November 10, 2014

สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลแถลง หยุดสร้างเขื่อนดอนสะโฮง หยุดเข่นฆ่าคนหาปลาลุ่มน้ำโขง


วันที่ 9 พ.ย. สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่อง : หยุดสร้างเขื่อนดอนสะโฮง หยุดเข่นฆ่าคนหาปลา ลุ่มน้ำโขง ความว่า ในวันที่ 10 พ.ย. สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) และ สำนักบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง กรมทรัพยากรน้ำ (สบข.) ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 กรมทรัพยากรน้ำ (สทภ. 11) จะจัดเวทีให้ข้อมูลโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮง สปป. ลาว ขึ้น ที่ ห้องประชุมพิมานทิพย์ (ชั้น 7) ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ที่ดำเนินการอย่างเร่งรีบ จึงน่าเคลือบแคลงอย่างยิ่ง
ต่อการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง และกระบวนการจัดเวทีให้ข้อมูลเขื่อนดอนสะโฮง ในครั้งนี้ พวกเรามีความเห็น ดังนี้ .......

1.เขื่อนดอนสะโฮง ก่อสร้างโดย สปป.ลาว บริเวณแม่น้ำโขงตอนล่าง ช่วงที่ 4 (ปากเซ สปป.ลาว-กระแจะ กัมพูชา) เกาะสีพันดอน ทางใต้ของ สปป.ลาว เขตติดต่อพรมแดนกัมพูชาประมาณ 7 กิโลเมตร (จากพรมแดน ลาว-กัมพูชา) เป็นการสร้างเขื่อนปิดฮูสะโฮง (ฮูสะโฮง เป็นช่องน้ำไหลอยู่ในแนวเดียวกันกับน้ำตกคอนพะเพ็ง และน้ำตกหลี่ผี) โดยมีแผนจะขุดขยายลำน้ำ (ฮูสะโฮง) เป็นช่องรับน้ำ 5 กิโลเมตร และก่อสร้างตัวเขื่อนเป็นคันคอนกรีตบดอัดแน่น ความยาว 6.8 กม. ความสูง 25 เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีขนาดกำลังผลิต 240-260 เมกะวัตต์ ขณะที่ฮูสะโฮง มีความลาดเอียงต่ำกว่าหลี่ผีและคอนพะเพ็ง สภาพเช่นนี้จึงเอื้อให้ปลาจำนวนมาก สามารถเดินทางจากทะเลสาบเขมรเข้ามาสู่แม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาแม่น้ำโขง ซึ่งรวมถึงแม่น้ำมูนด้วย แต่วัฏจักรของปลานี้จะหายไปเมื่อเขื่อนดอนสะโฮงสร้างแล้วเสร็จ

 2.เขื่อนดอนสะโฮง จะถูกสร้างขึ้นในลำน้ำโขงซึ่งเป็นแม่น้ำนานาชาติ แม่น้ำโขงนับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจุดกำเนิดจากที่ราบสูงทิเบต และมีจุดกำเนิดร่วมกับอีก 2 แม่น้ำ คือแม่น้ำแยงซี และแม่น้ำสาละวิน ไหลผ่านถึง 7 ประเทศ จนกระทั่งไหลไปออกทะเลจีนใต้ที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่เวียดนาม มีลำน้ำสาขาต่างๆ มากมาย รวมถึงพื้นที่ชุ่มน้ำอีกจำนวนมาก เช่น แม่น้ำมูน, แม่น้ำชี, แม่น้ำสงคราม และทะเลสาบเขมร แม่น้ำโขงนับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับที่ 10 ของโลก และเป็นแม่น้ำที่มีความหลากหลายของชนิดปลามากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากแม่น้ำอเมซอนในทวีปอเมริกาใต้ และแม่น้ำคองโกในทวีปแฟริกาปลาที่พบในลุ่มแม่น้ำโขง ในปัจจุบันนี้พบแล้วกว่า 1,200 ชนิด และคาดว่าอาจมีถึง 1,700 ชนิด จะส่งผลกระทบทำให้ปลาจำนวนมากลดจำนวนลงและปลาอีกหลายชนิดจะสูญพันธุ์ป เช่นเดียวกับการสร้างเขื่อนปากมูลที่ทำให้ปลาในแม่น้ำมูนลดจำนวนลงอย่างมาก ซึ่งผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นกับประชาชนในหลายประเทศร่วมถึงประชาชนไทยด้วย

 3.แม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2538 กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงทั้งสี่ประเทศซึ่งใช้ประโยชน์ลุ่มน้ำโขงตอนล่างร่วมกัน ได้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการร่วมมือ "การพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง แบบยั่งยืน" ได้ร่วมกันก่อตั้ง คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission - MRC) โดยในส่วนของประเทศไทยหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการคือ "กรมทรัพยากรน้ำ" การสร้างเขื่อนดอนสะโฮง กั้นแม่น้ำโขง จึงควรอย่างยิ่งที่ MRC จะต้องทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในกลุ่มประเทศสมาชิก แต่ MRC กลับเพิกเฉย และที่สำคัญกรมทรัพยากรน้ำในฐานะตัวแทนประเทศไทย ยังออกหน้าจัดเวทีแทนเจ้าของเขื่อน (เจ้าของเขื่อนคือ สปป.ลาว) เสมือนหนึ่งว่าการจัดเวทีครั้งนี้เป็นไปเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับเขื่อนดอนสะโฮง พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ต่างจาก "มือปืนรับจ้าง"

 4.ความล้มเหลวจากเขื่อนปากมูล แต่ไม่นำไปเป็นบทเรียน เขื่อนปากมูลถูกสร้างขึ้นโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของชาวบ้านคนหาปลา และนักวิชาการว่าเขื่อนปากมูลจะส่งผลให้ปลาลดลง ซึ่งนักสร้างเขื่อนพยายามหาเหตุผลและเสนอเทคนิคมากมายเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของชนิดพันธุ์ปลา และปริมาณปลาในลุ่มน้ำมูน แต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้แล้วเขื่อนปากมูลซึ่งเดิมเป็นเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นเขื่อนเพื่อการชลประทาน ขณะที่ชาวบ้านยังคงเรียกร้องความเป็นธรรมต่อเนื่องยาวนานกว่า 26 ปี และพวกเขายังคงต้องเรียกร้องต่อไปจนกว่าความเป็นธรรมจะเกิดขึ้น

 5.คำสัญญาที่หลอกลวง ชาวบ้านปากมูนได้เคยมีข้อตกลงจำนวนมากกับการไฟฟ้า ฯ และรัฐบาล ทั้งก่อนการสร้างเขื่อนปากมูล และเมื่อเขื่อนปากมูลสร้างเสร็จแล้ว แต่ทุกข้อตกลงที่ผ่านมา เจ้าของเขื่อนและรัฐบาลไม่เคยทำตามสัญญาเลยสักครั้ง และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมาถึง 26 ปี และเช่นเดียวกันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) หน่วยงานที่นำเสนอข้อมูลเขื่อนดอนสะโฮง ก็จะพยายามนำเสนอข้อมูลเฉพาะด้านดีของเขื่อนเพียงด้านเดียว พร้อมกับรับปาก สัญญา ต่าง ๆ นานา เพื่อให้เวทีผ่านไปจนเสร็จ แต่หลังจากนั้น คนเหล่านี้ก็จะหายไปไม่มาให้เห็นหน้าอีกเลย

 ต่อพฤติกรรมของ MRCS และกรมทรัพยากรน้ำ ที่เร่งรีบดำเนินการจัดเวทีให้ข้อมูลเขื่อนดอนสะโฮง ในครั้งนี้ พวกเรามิอาจคาดหวังได้ว่าจะมีการให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน เพียงพอที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถตัดสินใจได้ และที่สำคัญพวกเราไม่เห็นหลักประกันอันใดเลยว่า ข้อเสนอของพวกเราจะถูกนำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ต่อการดำเนินการของเขื่อนดอนสะโฮง เพราะ สปป.ลาว ได้ตัดสินใจแล้ว และกำลังเดินหน้าก่อสร้างเขื่อน

 ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และปกป้องการทำลายแม้น้ำโขง  สมัชชาคนจน กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล จึงเรียกร้องให้ MRCS และกรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการ ดังนี้

 1.ให้ MRCSและกรมทรัพยากรน้ำ ยกเลิกการจัดเวที ในวันพรุ่งนี้ ทันที พร้อมกับกลับไปทบทวนบทบาทหน่วยงานของตนเอง ว่าจะดำเนินการเพื่อรับใช้นักสร้างเขื่อน หรือเพื่อจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไทย

 2.ให้กรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะของรัฐไทย ใช้สิทธิ์ยับยั้งการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง ของ สปป.ลาว พร้อมกับเสนอให้ สปป.ลาว เป็นผู้ดำเนินการจัดเวทีให้ข้อมูลกับประชาชนในประเทศสมาชิก MRC ทั้งสี่ประเทศ  ไม่ใช่ MRSC และกรมทรัพยากรน้ำ มาทำแทนเช่นนี้

 3.ให้กรมทรัพยากรน้ำ หันมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น ปัญหาที่เกิดจากเขื่อนปากมูล ให้เสร็จสิ้นก่อน พร้อมทั้งหาแสวงหาแนวทางในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนโดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชน เป็นที่ตั้ง

 อย่างไรก็ตาม พวกเรายังหวังว่า กรมทรัพยากรน้ำ ที่เป็นตัวแทนของรัฐไทย จะตระหนักและสำเหนียกว่า เบี้ยหวัดที่พวกท่านได้รับอยู่นั้น มาจากภาษีของประชาชนชาวไทย และในฐานะหุ้นส่วนของสังคมไทย พวกเราจึงมิอาจนิ่งเฉยอยู่ได้ และที่สำคัญพวกเราได้มีประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาแล้วกว่า 26 ปี ซึ่งพวกเราไม่อยากให้ความเลวร้าย ที่ได้เกิดขึ้นกับพวกเรา เกิดขึ้นซ้ำ ซ้ำ อีกต่อไป การยับยั้งการจัดเวทีในวันพรุ่งนี้ จึงเป็นภารกิจเพื่อปกป้องแม่น้ำ ปกป้องวิถีชีวิต วิถีชุมชนของพวกเรา และของทุกคน

เชื่อมั่นในพลังประชาชน
สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล
10 พฤศจิกายน 2557



...................
ที่มาภาพ : http://board.postjung.com/723375.html

No comments:

Post a Comment