ศาลปกครองเชียงใหม่พิพากษา
‘กฟผ.’ ผิด รุกพื้นที่สาธารณะต.ดู่ใต้ จ.น่าน
สร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง กระทบที่ทำกินชุมชน สั่งยุติโครงการ - ทนายย้ำ
แม้เป็นหน่วยงานรัฐก็ต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ตามกฎหมาย
วันที่ 30
ก.ย. 58 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ศาลปกครองเชียงใหม่ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่
ส.4/2557 ที่นางพวงทอง เลื่องลือ กับพวกรวม 17 คน เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1-17 ยื่นฟ้อง
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2
ในความผิดฐานเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ห้วยต้นผึ้งและสวนป่าสาธารณะ(ป่าชุมชน)ค่าโขง ในท้องที่ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง
จังหวัดน่านโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าแรงสูง
โดยศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษาว่าการดำเนินการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพื่อก่อสร้างโครงการดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยไม่ชอบตามกฎหมาย
เนื่องจากมิได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ทบวงการเมืองใช้ที่ดินของรัฐเพื่อประโยชน์ในราชการตามประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. 2541 กำหนดไว้
และพิพากษาให้กฟผ. ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ยุติการก่อสร้าง
รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
และทำสภาพที่ดินในที่ป่าสาธารณประโยชน์ห้วยต้นผึ้งและสวนป่าสาธารณะ (ป่าชุมชน)
ค่าโขง ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมหรือใกล้เคียงกับสภาพเดิม
นางสาวส.รัตนมณี
พลกล้า ทนายความฝ่ายผู้ฟ้องคดี ศูนย์ข้อมูลชุมชน
กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากประชาชนตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นปี
2557 โดยชาวบ้านแจ้งว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างผ่านที่ดินสาธารณะประโยชน์
2 แปลง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชุมชนของหมู่บ้าน
และพื้นที่ที่หมู่บ้านใช้ทำการเกษตรร่วมกัน โดยไม่มีการแจ้งชาวบ้านในพื้นที่และไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่จากหน่วยงานใด
กระนั้น
ที่ผ่านมากฟผ.ยังเดินหน้าดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเหตุให้พื้นที่สาธารณะของชุมชนทรุดโทรมเสียหาย
กระทบต่อวิถีการทำมาหากิน
ศูนย์ข้อมูลชุมชนจึงได้เข้าให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ชาวบ้านในการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่
13
มิถุนายน 2557
ด้านนายวีรวัฒน์ อบโอ
ทนายความผู้ฟ้องดคี ศูนย์ข้อมูลชุมชน ระบุว่า การที่กฟผ.เข้าไปก่อสร้างโครงการในที่สาธารณะประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตนั้น
ถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย วันนี้ศาลปกครองเชียงใหม่ได้ตัดสินให้กฟผ.ยุติโครงการดังกล่าว
และทำให้พื้นที่กลับคืนสู่สภาพเดิม การที่ประชาชนในพื้นที่มายื่นฟ้องคดีนี้
ก็เพื่อให้ศาลได้ชี้ว่า กฟผ.ซึ่งแม้จะเป็นหน่วยงานของรัฐก็ไม่สามารถดำเนินการโครงการใดๆโดยไม่เคารพต่อกฎหมายได้
และจำเป็นต้องขออนุญาตหน่วยงานพร้อมทั้งแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างถูกต้องก่อนที่จะเข้าไปดำเนินการก่อสร้างใดๆ"
นางพวงทอง เลื่องลือ ตัวแทนชาวบ้านผู้ฟ้องคดี
กล่าวว่า ชาวบ้านเห็นพ้องกับคำพิพากษาที่ตัดสินว่า กฟผ.ทำผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดีมีข้อสังเกตว่าหากชาวบ้านเข้าไปก่อสร้างสิ่งใดๆหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะโดยไม่ขออนุญาตเช่นเดียวกันนี้
ก็คงถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ไปแล้ว
นางสาวส.รัตนมณี กล่าวเพิ่มเติมว่า"การฟ้องคดีนี้
ก็เพื่อให้หน่วยงานราชการเห็นว่า
แม้ตัวเองจะมีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินการใดๆก็ตาม
แต่ก็ต้องเคารพในกฎหมายอื่นด้วย ไม่ใช่จะอ้างเพียงว่าเป็นหน่วยงานรัฐเหมือนกัน ก็ไม่ต้องขออนุญาต
คดีนี้น่าจะเป็นตัวอย่างสำหรับหน่วยงานอื่นที่จะดำเนินโครงการใดๆก็ควรต้องเคารพในกฎหมายของตนและกฎหมายอื่นด้วย"
ทั้งนี้ ชาวบ้านยังเปิดเผยว่า นอกจากพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องกันนี้แล้ว
ยังมีพื้นที่สาธารณะในอำเภออื่นที่โครงการนี้ก่อสร้างผ่าน ซึ่งไม่แน่ใจว่า กฟผ.ได้มีการดำเนินการขออนุญาตแล้วหรือไม่อย่างไร
...............
ภาพประกอบข่าว : www.mcot.net
No comments:
Post a Comment