เลขาธิการ กป.อพช.อีสาน โต้ร่างพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ละเมิดสิทธิประชาชน
หลังจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ.58 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
รัฐสภา ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ในวาระแรก โดยมี พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่าง
พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะว่า เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจน
สอดคล้องกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ ประเทศไทยเป็นภาคี
ทั้งนี้ เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
ไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย
หรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ
และไม่กระทบกระเทือนสิทธิและเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ซึ่งสมาชิก สนช. ส่วนใหญ่ได้อภิปรายสนับสนุนร่าง
พ.ร.บ.ดังกล่าว ก่อนลงมติรับหลักการในวาระแรก ด้วยคะแนน 182 งดออกเสียง 4 โดย ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน
22 คน ดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มีทั้งสิ้น 35 มาตรา อาทิ ห้ามชุมนุมในรัศมี 150 เมตร เขตพระบรมมหาราชวัง, ห้ามชุมนุมที่รัฐสภา ทำเนียบ และศาล ในระยะห่าง 50 เมตร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบหมายมีอำนาจประกาศห้ามชุมนุม,
ห้ามขวางทางเข้า-ออก รบกวนการทำงานการใช้บริการหน่วยงานรัฐ ทั้งท่าอากาศยาน, ท่าเรือ, สถานนีรถไฟ,
ขนส่งสาธารณะ, โรงพยาบาล, สถานศึกษา, ศาสนสถาน, สถานทูต, สถานกงสุล และสถานที่ทำการองค์การระหว่างประเทศ, ต้องแจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มไม่น้อยกว่า
24 ชั่วโมง ห้ามปราศรัยในเวลาเที่ยงคืนถึง
06.00 น. ต้องไม่เคลื่อนการชุมนุมในเวลา 18.00 - 06.00 น. การสลายการชุมนุมต้องขออนุมัติจากศาล
วันนี้ 1 มี.ค.58 เวลาประมาณ 16.00
น. นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนพัฒนาชนบท
(กป.อพช.อีสาน) ซึ่งเป็นเอ็นจีโอ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชน
และทำงานเกาะติดประเด็นปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
และผลกระทบจากโครงการพัฒนาในพื้นที่ภาคอีสาน ได้มีความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พ.ร.บ.นี้เป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนในการใช้สิทธิเรียกร้อง
และในอนาคตการเรียกร้องของชุมชนที่เดือดร้อนเรื่องปากท้อง ปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรในพื้นที่
จะไม่ได้รับการแก้ไข
"ถ้ากฎหมายนี้บังคับใช้จะส่งผลให้การเมืองภาคประชาชนอ่อนแอลง
ซึ่งต้องเข้าใจว่าประชาชนเดือดร้อนจากโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำ ขณะที่รัฐจะบีบบังคับให้ประชาชนไปร้องเรียนผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมที่ไม่มีประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหา"
เลขาธิการ กป.อพช.อีสาน ยังกล่าวต่อว่า ร่างดังกล่าวที่ สนช.รับหลักการไปแล้วด้วยจำนวนเสียงมากมายนั้น
ตนมองว่าสนช.ที่สนับสนุนแยกไม่ออกระหว่างม็อบมีเส้นกับม็อบชาวบ้านที่ไม่มีเส้น
เราทราบกันว่าการชุมนุมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐพยายามที่จะห้ามไม่ให้ชุมนุมโดยมักจะอ้างความวุ่นวาย
ความสงบบ้าง โดยมีการสกัดไม่ให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนชุมนุม ไม่ยอมพบพูดคุยและถ้าพ.ร.บ.นี้ออกมาแล้ว
เช่นต้องมีการแจ้งก่อนล่วงหน้า หรือขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ถามว่าหน่วยงานที่ชาวบ้านจะต้องไปเจรจา ยื่นข้อเสนอปัญหาจะต้องหลบหนีแน่นอนไม่ยอมพบชาวบ้าน
"อยากถามต่อไปยัง
สปช.ที่กำลังร่างรัฐธรรมนูญว่าถ้าพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ออกมาแล้ว จะทำให้ความเป็นพลเมืองเติบโตได้อย่างไร
ถ้าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานถูกจำกัด และผมมองว่า พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ยังไม่ควรออกตอนนี้
ควรให้มีการถกเถียงจากคนในสังคมมากกว่านี้ไม่ใช้เอาอารมณ์ของคนในสังคมที่เบื่อการชุมนุมฉวยโอกาสออกกฎหมายละเมิดสิทธิประชาชน
และโดยเฉพาะตำรวจเป็นผู้ถือกฎหมายเราจะไว้ใจได้อย่างไร"
นายสุวิทย์กล่าวทิ้งท้าย
............
ที่มาภาพ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=12683&t=news
No comments:
Post a Comment